บันทึกเกี่ยวกับควอนตัม

หนังสือควอนตัม

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

โครงการวิจัยข้อเสนอการวิจัยจะทำอะไรกันดี

จากแนวคิดของนายแพทย์ ประเวศ วสี ได้ให้แนวคิดว่า มหาวิทยาลัยเราแยกตัวออกจากชุมชนชาวบ้านที่มุ่งเน้นเอาตัววิชาเป็นตัวตั้ง ทำไม่รู้วิชาจริง  ยังต้องมีความรู้ในเรื่องของศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่ต้องเคารพกัน ที่ผ่านมาเป็นไปได้ว่า คนที่มาเรียนวิชาแล้วทำให้ดูถูกชาวบ้านที่ไม่ได้เรียนว่าต่ำต้อย 

การศึกษาที่ถูกต้องจะต้องเอาปัญหาของชุมชนของ ชาวบ้านมาบูรณาการกับวิชาให้ได้ จึงจะนับได้ว่ารู้วิชาจริง

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

การ์ตูนคณิตคิดสนุกตอน แปลกดีนะ

แนวคิดการจัดทำคลังบล็อก

เดียวนี้มีบล็อกเกอร์เรื่องราวต่างๆ ที่นำเสนออยู่ในอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก มีทั้งเรื่องเฉพาะทางที่เป็นเรื่องใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  เช่นเรื่องนาโนเทคโนโลยี เรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่นเรื่องสมุนไพร หากได้สังเคราะห์วิเคราะห์บล็อกเหล่านี้แล้วจะได้ความรู้ใหม่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่น่าทำวิจัยอีกอย่างหนึ่ง  แนวคิดการสังเคราะห์บล็อกจึงเกิดขึ้น โดยจะรวมรวมบล็อกและวิเคราะห์เนื้อหาของแต่ละบล็อกและลิงค์ไปยังบล็อกที่ต้องการได้

โรคหลงตัวเอง

สองสามวันมานี้ได้ข่าวพระรูปหนึ่งที่ถูกร้องเรียนในเรื่องความไม่โปร่งใสในเรื่องของทรัพย์ และในเรื่องที่อ้างว่าละลึกชาติได้ไปถึงชาติที่ผ่านมาว่าเคยเป็นถึงกษัตริย์ เมื่อได้ยินได้ฟังแล้วก็ให้ได้คิดว่าวัตรปฏิบัตรของพระในปัจจุบันนั้นยังห่างไกลจากครั้งพุทธกาลและคำสอนของพระพุทธองค์ สัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งนัก  ทั้งๆ ที่ทราบกันดีว่าประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยอยู่เสมอ เท่าที่นึกได้ก็มีพระยันตระ พระนิกร พระภาวนาพุทโธ แต่เราไม่ค่อยได้เอามาเป็นบทเรียนยังหลงเชื่อ หรือถูกหลอกให้เชื่ออยู่เสมอ 

และเมื่อสองสามวันมานี้เช่นกันได้ดูภาพยนต์เรื่องหนึ่งชื่อว่า The Perfect Day นำแสดงโดย Rob Row ภาพยนต์เรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสของคนที่ถูกให้ออกจากงาน สามารถไปทำอย่างอื่นที่แตกต่างคือการเป็นนักเขียนนิยายที่เคยทำค้างไว้ให้เสร็จ แล้วโรงพิมพ์รับซื้อให้ไปพิมพ์จำหน่ายในช่วงวันคริสมาส ซึ่งประสบผลสำเร็จเกินคาด เป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่ประสบผลสำเร็จเร็วจนลารี่คิงไลน์ขอสัมภาษณ์ไปทั่วประเทศ  จากที่ประสบผลสำเร็จเร็วเห็นผลประโยชน์ที่มีมาตรงหน้าจนทำให้ลืมลูกลืมเมียไปได้เช่นกัน  แต่เผอิญเขายังโชคดีที่มีทีมทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องคนประสบผลสำเร็จเร็วที่ตั้งสมมุติฐานไว้ว่า คนที่ประสบผลสำเร็จเร็วมักมีอาการหลงตัวเอง คณะวิจัยทำเป็นความลับไม่ให้รู้ตัว แต่ก็คอยเตือนอยู่เสมอถึงเรื่องอาการหลงตัวเอง ทำให้พระเอกของเรื่องนี้สำนึกตัวได้ ไม่ถึงกับมีปัญหากับครอบครัวถึงขั้นหย่าร้างเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา 

ที่ยกตัวอย่างภาพยนต์ที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ของพระคุณเจ้าทั้งหลายที่มีอาการคล้ายคลึงกันที่เมื่อมีคนศรัธาสูงที่เรียกว่าพระขึ้น คือคนมาชมบารมียินยอมถวายอะไรให้ได้เกือบทุกอย่างหากมีความเชื่อศรัธาว่ามีบุญบารมีแก่กล้าพูดทำอะไรคนก็เชื่อไปหมด  ทำให้ เป็นไปได้เหมือนกับที่เป็นในภาพยนต์ดังกล่าว แต่สำหรับในกรณีของพระอาจจะยังไม่มีใครเคยทำวิจัยที่มีเหตุผลที่ให้ข้อสรุปเตือนใจ เผื่อว่าเป็นลางบอกเหตุได้ว่าถ้าอาการแบบนี้แล้วถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง จะเรียกว่าเรียกว่าโรคหลงตัวเอง หรือโรคเสียงสมดุลทางธรรม ที่ผ่านมาบุญบารมีก็จะค่อยๆ ลดลงไปความเสื่อมก็เข้ามาแทนที่

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

เทศกาลการสอบ

การสอบหรือการประเมินผลการเรียนรู้ในรายวิชาต่างๆ ที่นักศึกษาลงเรียน การสอบกลางเทอมถือเป็นความรับผิดชอบของอาจารย์ผู้สอนที่จะดำเนินการเอง  แต่การสอบภาคปลายนั้นเป็นประเพณีไม่มีการเปลี่ยนแปลงดำเนินการโดยส่วนกลางหรือมหาวิทยาลัย ถือเป็นการช่วยเหลือกันสำหรับคนที่ไม่มีกำลังคน ในการกับกับดูแลในการสอบ แต่ก็น่าแปลกที่ว่าตอนกลางเทอมจัดการเองได้ และคะแนนส่วนใหญ่ตามหลักการประเมินผลการศึกษาน่าจะไปอยู่ที่กลางเทอม ส่วนปลายเทอมนั้นมีเหลืออยู่อาจไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ให้ความสำคัญกับมันมากกว่าการเรียนรู้ที่พัฒนาการมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดเรียน   อันนี้ก็ดูได้ไม่ยากหากจะไปดูที่แผนการสอนของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร

ในมหาวิทยาลัยอื่นๆ การสอบทั้งหมดนั้นให้เป็นหน้าที่ของแต่ละคณะที่รับผิดขอบเปิดสอนรายวิชานั้นๆ ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐานก็จะเป็นห้องรวมขนาดใหญ่ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้คนกำกับดูแลในการสอบมากนัก และก็จะไม่มีเสียงบ่นการคุมสอบใครคุมมากคุมน้อย ที่ก่อให้เกิดการไม่ยุติธรรม แต่ละเทอมจะได้ยินเสียงบ่นเรื่องการกำกับการสอบอยู่เสมอ หากกระจายอำนาจให้เป็นการสอบของคณะน่าจะมีผลดีกว่าเพราะว่า ประการแรกจะได้ไม่ต้องโทษกันไปมาว่า การกำกับการสอบไม่ดีมีการทุจริตเกิดขึ้น ถ้าคณะไปกำกับเองก็จะโทษใครไม่ได้

ในการควบคุมการสอบนักศึกษาบางครั้งก็พยายามที่จะทุจริตเล็กๆ น้อยๆ เช่นแอบดูของผู้อื่น หรือไม่ก็แอบเขียนคำตอบไว้ในเศษกระดาษหรือในส่วนของร่างกาย ไม่ก็ส่งสัญญาณกันระหว่างเพื่อนที่สอบด้วยกันในกรณีที่เป็นข้อสอบปรนัย  เคยเห็นอาจารย์บางท่านได้เขียนไว้ในห้องคุมสอบว่า การทุจริตในการสอบหมายถึงอนาคตของท่าน  นักศึกษาบางคนก็ไม่เข้าใจอีกว่าหมายความว่าอย่างไร สำหรับความหมายก็ไม่มีอะไรมาก หากนศ.ทุจริตในการสอบ ในอนาคตก็มีความโน้มเอียงที่จะไปทุจริตคนอื่นอีก ก็พึงระวังกันไว้  หรือไม่ก็การทุจริตในการสอบ ไม่ยอมศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะสอบ อนาคตคงจะสดใสได้อยาก อาจารย์บางท่านถึงกับถามนักศึกษาว่า มาเรียนในมหาวิทยาลัยทำไม ถ้าจะมาเอาความรู้ การทดสอบเป็นการประเมินดูว่าเรามีความรู้อยู่มากน้อยเพียงใด ถ้าลอกหรือทุจริตเสียแล้วจะมีความรู้ได้อย่างไร

สวัสดี

บล็อกนี้เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของชาวราชภัฏทั้งหลายที่ต้องการแลกเปลี่ยนทัศนะความเป็นไป ว่าสถานะของราชภัฏควรจะอยู่อย่างไร จะพัฒนาไปด้านใด